ข้อที่ 1 จะทำอะไรต้องศึกษาข้อมูลให้เป็นระบบ
อดีตทำอะไรมาบ้าง
ทั้งเอกสาร สอบถามเจ้า เพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้จริงๆ เช่นงานยาเสพติด ต้องดูข้อมูลให้ลึกซึ้ง ทำไมทำงานไม่สำเร็จ ต้องศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ทั้งการพูดคุย การดูตัวเลข แต่อย่าให้ตัวเลขมาหลอกเราได้ ผู้ยิ่งใหญ่เห็นแต่ภาพสวยหรู แท้ที่จริงเละตุ้มเป๊ะ
แม้ทำไม่ได้ มีปัญหาตัวเลข ก็สวยหรู เพราะมีการคาดโทษ ต้องยอมรับ ความจริงก่อน แล้วลงมือแก้ไข
ข้อที่ 2 ระเบิดจากภายใน
สร้างความเข้มแข็งจากภายในให้เกิดความเข้าใจ และอยากทำ มิใช่สั่งให้ทำ
คนไม่เข้าใจจะไม่ทำ แยกให้ออกระหว่างคุณค่า กับมูลค่า
ว่ามีเหตุผล็อย่างไรจึงควรทำ
ข้อที่ 3 แก้ปัญหาจากจุดเล็ก
มองภาพรวมก่อนเสมอ แต่การแก้ปัญหาต้องเริ่มจากจุดเล็กๆ ไม่เริ่มทีเดียวใหญ่ ๆ และควรมองในสิ่งที่มักจะมองข้าม ถ้าปวดหัวคิดอะไรไม่ออก ให้คิดแก้ปวดหัวก่อน เป็นคำพูดที่ฟังดูตลก
แต่ลึกซึ้ง คิดใหญ่ทำเล็ก คิดกว้างทำแคบ คิดละเอียดทำหยาบ ลงมือทำในจุดเล็กๆ ก่อน สำเร็จแล้วจึงค่อยขยาย มิใช่สั่งทำพร้อมกันทั่วประเทศ
ดูดี แต่ลงทุนสูงได้ผลน้อย
ในที่สุดทุกคนก็จะหมดแรง เพราะมีแต่คนสั่งคนทำมีอยู่ไม่กี่คน
ข้อที่ 4 ทำตามลำดับขั้น
เริ่มทำจากความจำเป็นก่อน สิ่งที่ขาดคือสิ่งที่จำเป็น เช่น
ประชาชนต้องแก้ปัญหาเรื่องสุขภาพก่อน จากนั้น ก็ไปแก้ที่สาธารณูปโภค
แล้วต่อด้วยการประกอบอาชีพ ถ้าทำเป็นขั้นเป็นตอน ก็จะทำให้สำเร็จได้ง่าย
เช่น งาน
ยาเสพติดรักษา --> ส่งเสริม --> ฟื้นฟู -->กลับอยู่ใน สังคมปกติ
เป็นคนดีของชาติ
ข้อที่ 5 ภูมิสังคม ภูมิศาสตร์
สังคมศาสตร์
การทำงานทุกอย่าง ต้องคำนึงถึงภูมิศาสตร์ว่า อยู่แถบไหน อากาศเป็นอย่างไร ติดชายแดน ติดทะเล และ
สังคมของเราเป็นอย่างไร นับถือศาสนาอะไร คนนิสัย ใจคอเป็นอย่างไร
รวมไปถึงพวกเรากันเองด้วย ถ้าไม่รู้ เขารู้เราจะรบชนะได้อย่างไร
สั่งทำโครงการทั่วประเทศ ไม่ได้
ต้องดูเฉพาะพื้นที่ กระทรวงสาธารณสุขออกแบบ สถานีอนามัยเหมือนกันทั่วประเทศ
บางครั้งก็ไม่ดีนัก
ข้อที่ 6 ทำงานแบบองค์รวม
โดยคิดความเชื่อมโยง ทรงมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมีแนวโน้มทางแก้ไขอย่างเชื่อมโยงองค์รวม <-------------> ครบวงจร เชื่อมโยง
“เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว” เป็นคำพูด ที่ฟังแล้วโอเวอร์ไปหน่อย
แต่ก็จริง ทุกสิ่งล้วนเกี่ยวพันกัน แยกออกจากกันโดยเด็ดขาดมิได้
ข้อที่ 7 ไม่ติดตำรา
ความรู้ท่วมหัว
เอาตัวไม่รอด บางครั้งเรายึดทฤษฎีจนเกินไปทำอะไรไม่ได้เลย สิ่งที่เราทำ บางครั้งต้องโอบอ้อมต่อสภาพธรรมชาติ
สิ่งแวดล้อม สังคม จิตวิทยาด้วย
ข้อที่ 8 ประหยัด
เรื่องง่ายได้ประโยชน์สูงสุด ทำได้เอง
หาได้เองในท้องถิ่น ใช้เทคโนโลยีเรียบง่าย เช่น ปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก
ปล่อย ให้ขึ้นเอง บางครั้งมีพิธีกรรมใหญ่โตผู้ยิ่งใหญ่ทำพิธีปลูกป่า โดยนำรถไถไปไถที่ให้เรียบเพื่อปลูกป่า โดยทำลายต้นไม้ ไปมากมาย น่าตลก เรื่องเช่นนี้ยังมีในสังคมไทยมากมาย กรอบแนวคิด Input ----> Process ----> Output ประหยัด เรียบง่าย ประโยชน์สูงสุด
ข้อที่ 9 ทำให้ง่าย
ทำอะไรให้ง่ายๆ ทำให้ชีวิตง่าย โปรดรับสั่งทำสิ่งยากๆ ให้กลายเป็นิส่งที่ง่ายๆ นักข่าวชาวฝรั่งเศสถามพระองค์ว่า พระองค์ทรงงานแบบใด ท่านตรัสตอบเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า “ซิมปลีฟีเย่” ซึ่งภาษาอังกฤษแปลว่า ซิมพลีฟาย(simplify) ภาษาไทยแปลว่า ทำให้ง่าย คนส่วนใหญ่ชวนทำสิ่งง่ายๆ ให้เป็นสิ่งยากๆ ผมบอกเจ้าหน้าที่งานยาเสพติดว่า ถ้าใคร โทรศัพท์มาของความช่วยเหลือ ให้ถามเขาคำแรกว่า “คุณจะให้ผมไปหาคุณหรือคุณจะมาหาผมเดี๋ยวนี้”
ข้อที่ 10 การมีส่วนร่วม
เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็น หัดทำใจให้หนักแน่น รับฟังความคิดเห็นการรับฟังคือ การเก็บความคิด
เราจะประมวลความคิดเพื่อมาใช้ประโยชน์
ข้อ 11 ต้องยึดประโยชน์ส่วนรวม
จากพระราชดำรัส
ใครต่อใครชอบบอกให้นึกถึงประโยชน์ส่วนรวม ให้ส่วนรวมคือการช่วยตัวเองด้วย เพราะเมื่อส่วนรวมได้ประโยชน์ เราเองก็ได้ประโยชน์ การช่วยกันแก้ปัญหา ยาเสพติด ส่วนรวมได้ประโยชน์ ลูกหลานเราก็ปลอดภัยจากยาเสพติดด้วยประเทศชาติ อยู่ไม่ได้ อย่าหวังเลยว่าเราจะอยู่ได้
ข้อที่ 12 บริการที่จุดเดียว
วันนี้เราพูด
วันสต๊อปเซอร์วิส แต่ในหลวงตรัสไว้เกิน20ปีมาแล้ว
ศูนย์ศึกษาพัฒนา 6แห่ง ทั่วประเทศให้บริการจุดเดียวมากกว่า 20 ปี ใครทันสมัยกันแน่
ข้อที่ 13 ใช้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ
มองธรรมชาติให้ออก กักน้ำตามลำธาร ช่วยให้ป่าสมบูรณ์ช่วยให้ชาวเขามีอาชีพ เราก็จะลดปัญหายาเสพติดลงไปการช่วยดูแลผู้ติดยา เขาจะไม่กลับไปเสพซ้ำและ สามารถกลับมาช่วยเราอีกแรง ทำให้ได้ แนวร่วมเพิ่มขึ้นอยู่แบบสมดุล ซึ่งการจะมองปัญหาออกต้องมีใจว่าง ไม่ลำเอียงต้องมีจิตอันพิสุทธิ์
ข้อที่ 14 ใช้อธรรมปราบอธรรม
เอาผักตบชวาที่เป็นปัญหาของเราในประเทศ
มากำจัดน้ำเสียเอาปัญหามาช่วยขจัดปัญหา เอาปัญหายาเสพติด มาช่วยพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมของคนไทยกันดีกว่าแผ่นดินธรรม แผ่นดินทองควรจะเฟื่องฟูได้แล้ว
ข้อที่ 15 ปลูกป่าในใจคน
ต้องปลูกป่าที่จิตสำนึกก่อน
ต้องให้เห็นคุณค่าก่อนที่จะลงมือทำการดูแลปัญหายาเสพติด ถ้าคน ทำหน้าที่นี้ยังทำเพราะเป็นหน้าที่ ง านสำเร็จได้ยาก แต่ถ้าทำด้วยความดีใจที่ได้ช่วยลูกเขาให้กลับคืนสู่อ้อมอกพ่อแม่ได้เพียงหนึ่งคน
ซึ่งคุ้มค่ากว่าได้เงินทองเป็นล้าน แสดงว่าพลังต่อสู้กับยาเสพติดได้เกิดขึ้นในใจของท่านแล้ว จงปลุกสิงโตทองคำในหัวใจ
ให้ตื่นขึ้นมาให้ได้ก่อน
ข้อที่ 16 ขาดทุนคือกำไร
อย่ามองที่กำไรขาดทุนที่เป็นตัวเงินมากจนเกินไป บางครั้งเราได้กำไรจากการขาดทุน
ลงทุนมหาศาล ได้ธรรมชาติกลับคืนมา
ลงทุนมหาศาล ได้ลูกคืนมา
ลงทุนมหาศาล ได้คนดีๆ
กลับมา
ลงทุนมหาศาล ได้ความรู้ไว้คอยช่วยเหลือ
ข้อที่ 17 การพึ่งตนเอง
ในหลวงทรงสอนให้พวกเราพึ่งตนเอง
เพราสังคมบริโภคจะเป็นทาสของผู้ผลิต การพึ่ง ตนเองได้ทำให้ไม่ต้องเป็นทาสใคร
เมื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้วพยายามพึ่งตนเองให้ได้
ข้อที่ 18 พออยู่พอกิน
พออยู่พอกินก่อน
แล้วค่อยพัฒนาเราขอให้บำบัดให้ได้ก่อน==> ประคับประคอง==> เป็นที่ปรึกษา==>เป็นผู้ช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป
ข้อที่ 19 เศรษฐกิจพอเพียง
เป็นแนวทางการต่อสู้ รับมือความ เปลี่ยนแปลงของโลก การจัดการกับปัญหายาเสพติด ต้องคำนึงถึง
เรื่องความพอดีให้ดีโดยอาศัยหลักเศรษฐกิจพอเพียง
ข้อที่ 20 ความซื่อสัตย์สุจริต
จริงใจต่อกัน
คนที่มีความรู้มาก แต่โกง สู้คนที่ไม่เก่ง แต่ดีไม่ได้ วีรบุรุษ
วีรสตรี คือคุณธรรม ที่ทำประโยชน์เพื่อ ผู้อื่น
พวกเราที่ทำงานยาเสพติด คือ วีรบุรุษ วีรสตรีผู้หนึ่ง
ข้อที่ 21 ทำงานอย่างมีความสุข
“ทำงานกับฉัน ฉันไม่มีอะไรจะให้
ฉันมีแต่ความสุขที่ร่วมกันในการทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น เท่านั้น”ทำอะไรต้องมีความสุขด้วย
เพราะศึกครั้งนี้ยาวนาน ถ้าเราทำอย่างไม่มีความสุข จะแพ้แต่ถ้าเรามี ความสุข เราจะชนะ
เพียงแต่คนทำงานเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมีความสุข สนุกกับการทำงานเพียงเท่านั้น ถือว่าเราชนะแล้ว
ข้อที่ 22 ความเพียร
กว่า 60 ปีที่ทรงงาน ในหลวงไม่เคย ทรงท้อถอย ไม่มีการลาพักร้อน หยุดงานสักเวลาเดียว
ข้อที่ 23 รู้ รัก สามัคคี
คิดเพื่องาน
รู้ = ต้องรู้ปัจจัย
รู้ปัญหา รู้ทางออกของปัญหา
รัก = เมื่อรู้แล้ว ต้องเกิดความอยาก ในทางที่ดีก่อนคือฉันทะเห็นว่า เป็นประโยชน์ต่อ
ประเทศชาติ ภูมิใจ อยากทำ
สามัคคี = ลงมือปฏิบัติ ต้องร่วมมือเพื่อเกิดพลังแยกกันไร้ค่ารวมกันไร้เทียมทาน
คิด เพื่อตัวเราเอง
รู้ = รู้จักทุกคนทั้งหน้าที่การงาน ชีวิต ครอบครัวทำอย่างไร จึงจะรู้จัก ให้ดีได้
รู้จุดอ่อน จุดแข็งโดย เฉพาะผู้บังคับบัญชา
รัก = เน้นความดี
ใส่ใจกันและกัน มองกันในแง่ดี
สามัคคี = จึงจะเกิด
ขอขอบคุณ ที่มา : http://www.crma.ac.th/msdept/knowledgemsd/23king_work.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น